ไม่ว่าจะมือใหม่หรือเก่า ก็ต้องเรียนรู้ วิธีการเล่นบาคาร่า ที่ถูกต้องกันทั้งนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไม บาคาร่า (Baccarat) มักจะติดอันดับต้น ๆ ของเว็บเดิมพันออนไลน์ บาคาร่านั้นมีกติกาที่เรียบง่าย มีวิธีการเล่นที่ไม่ซับซ้อน และรู้ผลเร็ว ทำให้บาคาร่ากลายเป็นเกมที่ทั้งผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเก่าต่างเลือกเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของการเสี่ยงโชคออนไลน์
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน บทความนี้คือ คู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่จะพาคุณไปรู้จักบาคาร่า ตั้งแต่พื้นฐาน กติกา วิธีนับแต้ม เทคนิค ไปจนถึงเคล็ดลับการเล่นให้ปลอดภัยและมีโอกาสทำกำไร
ทำความเข้าใจ บาคาร่า คืออะไร?
บาคาร่า (Baccarat) คือเกมไพ่ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสและอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 15 โดยคำว่า Baccarat มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า “ศูนย์” ซึ่งหมายถึงค่าแต้มของไพ่ที่มีหน้า 10, J, Q และ K ที่จะมีค่าเป็นศูนย์ในเกมนี้
บาคาร่าได้รับความนิยมอย่างมากในบ่อนคาสิโนจริงทั่วโลก และเมื่อยุคดิจิทัลมาถึงก็ได้ถูกพัฒนาเข้าสู่ระบบ บาคาร่าออนไลน์ ที่ผู้เล่นสามารถเดิมพันได้ง่ายผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
ประวัติและความเป็นมาของบาคาร่า
- ยุคแรกเริ่ม: บาคาร่ามีต้นกำเนิดจากอิตาลี และต่อมาได้ถูกนำเข้าสู่ฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8
- ความนิยมในยุโรป: บาคาร่ากลายเป็นเกมโปรดของชนชั้นสูงในยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศสและอังกฤษ
- สู่เอเชีย: เมื่อเกมนี้แพร่เข้าสู่เอเชีย โดยเฉพาะมาเก๊า ก็กลายเป็นเกมคาสิโนหลักในบ่อน และต่อมาได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย
- บาคาร่าออนไลน์: ปัจจุบันผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเดินทางไปบ่อน เพียงสมัครสมาชิกเว็บคาสิโนก็สามารถเข้าเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา
กติกาและพื้นฐานที่มือใหม่ต้องรู้
กติกาของบาคาร่าเข้าใจง่ายมาก และนี่คือสิ่งที่ผู้เล่นใหม่ต้องรู้:
- เกมบาคาร่ามี สองฝ่าย คือ
- Player (ผู้เล่น)
- Banker (เจ้ามือ)
- ผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพันได้ว่า ไพ่ฝ่ายใดจะมีแต้มสูงกว่า หรือเสมอ
- แต้มสูงสุดคือ 9
- ไพ่ A มีค่า = 1
- ไพ่ 2–9 มีค่า = ตามหน้าไพ่
- ไพ่ 10, J, Q, K = 0
- การนับแต้ม: นับผลรวมของไพ่สองใบ หากเกิน 9 ให้นับเฉพาะหลักหน่วย
- เช่น ไพ่ 7 + 8 = 15 → แต้มคือ 5
- การจั่วไพ่ใบที่สาม: จะมีเงื่อนไขพิเศษ โดยขึ้นอยู่กับแต้มของทั้งฝ่าย Player และ Banker
วิธีการนับแต้มไพ่บาคาร่า
- ตัวอย่างการนับแต้ม:
- ไพ่ K + 9 = 9 แต้ม
- ไพ่ 6 + 8 = 14 → 4 แต้ม
- ไพ่ A + 7 = 8 แต้ม
ประเภทของการเดิมพันบาคาร่า (ขยายเพิ่มเติม)
ในเกมบาคาร่า แม้กติกาจะดูง่าย ๆ คือการเลือกทายผลว่าฝั่งใดจะมีแต้มมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วรูปแบบการเดิมพันมีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบมี โอกาสชนะ และ อัตราจ่าย ที่แตกต่างกัน ดังนี้:
1. Player (ผู้เล่น)
- ความหมาย: เลือกเดิมพันว่าฝั่ง “ผู้เล่น” จะชนะเจ้ามือ
- อัตราการจ่าย: 1:1 (เช่น แทง 100 ได้กำไร 100)
- โอกาสชนะโดยเฉลี่ย: ประมาณ 44–45%
- ข้อดี: ไม่มีการหักค่าคอมมิชชั่น ได้เงินเต็ม
- ข้อควรระวัง: สถิติจะชนะน้อยกว่าฝั่ง Banker เล็กน้อย
👉 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ไม่อยากเสียค่าคอมมิชชั่น
2. Banker (เจ้ามือ)
- ความหมาย: เลือกเดิมพันว่าฝั่ง “เจ้ามือ” จะชนะ
- อัตราการจ่าย: 1:0.95 (แทง 100 ได้กำไร 95 เพราะถูกหักค่าคอมมิชชั่น 5%)
- โอกาสชนะโดยเฉลี่ย: ประมาณ 45–46% (สูงกว่าฝั่ง Player เล็กน้อย)
- ข้อดี: โอกาสชนะสูงที่สุดในเกมบาคาร่า
- ข้อควรระวัง: ได้กำไรน้อยกว่าฝั่ง Player เล็กน้อยเพราะถูกหัก 5%
👉 มืออาชีพหลายคนมักเลือกฝั่ง Banker เป็นหลัก เพราะความได้เปรียบทางสถิติ
3. Tie (เสมอ)
- ความหมาย: เลือกเดิมพันว่าแต้มของ Player และ Banker จะออกมา “เสมอกัน”
- อัตราการจ่าย: 1:8 (แทง 100 ได้กำไร 800)
- โอกาสเกิดขึ้นจริง: ประมาณ 9% เท่านั้น
- ข้อดี: หากทายถูกจะได้กำไรสูง
- ข้อควรระวัง: โอกาสเกิดน้อยมาก ไม่ควรเดิมพันบ่อย
👉 เหมาะกับการวางเดิมพันเล็ก ๆ เป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น
4. Player Pair / Banker Pair (ไพ่คู่)
- ความหมาย: เดิมพันว่าฝั่ง Player หรือ Banker จะได้ไพ่สองใบแรกที่ “เหมือนกัน” เช่น 7–7, K–K
- อัตราการจ่าย: 1:11 (แทง 100 ได้กำไร 1,100)
- โอกาสเกิดขึ้นจริง: ประมาณ 7–8%
- ข้อดี: ผลตอบแทนสูงมากหากทายถูก
- ข้อควรระวัง: เป็นการเดิมพันที่เสี่ยงสูง โอกาสเกิดไม่บ่อย
👉 เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายและเสี่ยงโชค
5. รูปแบบเดิมพันพิเศษ (บางค่ายมีเพิ่ม)
นอกจากตัวเลือกพื้นฐานแล้ว คาสิโนบางค่ายยังเพิ่ม Side Bet (การเดิมพันเสริม) เพื่อเพิ่มความหลากหลาย เช่น:
- Big/Small – ทายว่าจะมีการแจกไพ่รวมกี่ใบ
- Perfect Pair – หากไพ่สองใบแรกเป็นคู่ที่เหมือนกันทั้งดอกและสี จะได้รางวัลสูง
- Super Six – หาก Banker ชนะด้วยแต้ม 6 จะมีการจ่ายพิเศษ
วิธีการเล่นบาคาร่าออนไลน์ (Step by Step)
สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มเล่นบาคาร่าออนไลน์ สามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:
- สมัครสมาชิกเว็บคาสิโนออนไลน์ ที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างเว็บเรา Betflik19
- ฝากเงินเข้าสู่ระบบ ผ่านช่องทางที่สะดวก เช่น Mobile Banking, True Wallet
- เลือกโต๊ะบาคาร่า ที่ต้องการเล่น
- วางเดิมพัน เลือกฝั่ง Player, Banker หรือ Tie
- ดีลเลอร์แจกไพ่ ให้ฝ่ายละ 2 ใบ
- นับแต้มไพ่ และตัดสินผล
- รับเงินรางวัล หากเดิมพันถูกต้อง
สูตรและเทคนิคการเล่นบาคาร่าที่นิยม
1. สูตรมังกร (Dragon Pattern)
- วิธีใช้: มองหาผลลัพธ์ที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะติดต่อกันยาว ๆ เช่น Banker ชนะต่อเนื่อง 5–6 ตา
- หลักการ: หากผลออกฝั่งเดิมซ้ำ ๆ มีโอกาสที่จะออกต่ออีก จึงตามแทงฝั่งเดิมจนกว่าจะเปลี่ยน
- ข้อดี: ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับมือใหม่
- ข้อควรระวัง: หากผลเปลี่ยนกะทันหัน อาจเสียต่อเนื่องได้
2. สูตรปิงปอง (Ping Pong Pattern)
- วิธีใช้: มองหาการออกผลสลับไปมา เช่น Player → Banker → Player → Banker
- หลักการ: หากเกมออกสลับฝั่งกันหลายตา ให้ตามสลับตามจังหวะ
- ข้อดี: มีโอกาสพบเจอบ่อยในโต๊ะบาคาร่า
- ข้อควรระวัง: ต้องสังเกตรูปแบบให้แม่น เพราะบางครั้งอาจสลับแค่ 2–3 ตาแล้วเปลี่ยน
3. สูตรแทงทบ (Martingale Strategy)
- วิธีใช้: หากตาแรกเดิมพันแล้วแพ้ ให้เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าในตาต่อไป เช่น 100 → 200 → 400 → 800
- หลักการ: เมื่อชนะในตาใดตาหนึ่ง จะได้ทั้งทุนคืนและกำไรกลับมา
- ข้อดี: การันตีการคืนทุนได้หากมีเงินทุนมากพอ
- ข้อควรระวัง: เสี่ยงสูงหากเจอการแพ้ต่อเนื่อง และต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
4. สูตรเดินเงิน 1324
- วิธีใช้: เดินเงินตามลำดับ 1 → 3 → 2 → 4 หน่วย
- รอบแรกลง 1 หน่วย
- หากชนะ → รอบสองลง 3 หน่วย
- หากชนะอีก → รอบสามลง 2 หน่วย
- หากชนะอีก → รอบสี่ลง 4 หน่วย
- หลักการ: เน้นการทำกำไรจากการชนะต่อเนื่อง 3–4 ตา
- ข้อดี: จำกัดความเสี่ยง เพราะถ้าแพ้ในตาแรก เสียเพียง 1 หน่วย
- ข้อควรระวัง: ต้องชนะต่อเนื่องตามลำดับ หากแพ้กลางทางจะเสียกำไรที่ทำมา
5. สูตรการอ่านเค้าไพ่
- วิธีใช้: ดูสถิติการออกผลย้อนหลังบนตารางบาคาร่า (Roadmap) แล้วนำมาวิเคราะห์ เช่น เค้าไพ่มังกร เค้าไพ่ปิงปอง เค้าไพ่สองตัวตัด
- ข้อดี: ช่วยให้การตัดสินใจเดิมพันมีเหตุผลมากขึ้น ไม่ใช่สุ่มเลือก
- ข้อควรระวัง: ไม่มีอะไรการันตีว่าจะออกซ้ำตามสถิติ
6. สูตรหยุดเมื่อได้กำไร (Win Stop)
- วิธีใช้: ตั้งเป้าหมายกำไร เช่น 30% ของทุน หากได้แล้วให้หยุดเล่นทันที
- ข้อดี: ป้องกันการเล่นต่อจนกำไรหาย
- ข้อควรระวัง: ต้องมีวินัยสูง ไม่โลภ ไม่ตามอารมณ์
การบริหารเงินและการตั้งเป้าหมาย
สิ่งสำคัญที่สุดที่มือใหม่มักมองข้ามคือ Money Management หรือการจัดการเงินทุน:
- กำหนดงบประมาณ ที่สามารถเสียได้โดยไม่กระทบชีวิตประจำวัน
- ตั้งเป้ากำไร เช่น ได้กำไร 30% ของทุนแล้วควรหยุด
- แบ่งไม้เดิมพัน ไม่ควรลงหมดหน้าตัก
- ควบคุมอารมณ์ เพราะบาคาร่าเป็นเกมที่รวดเร็ว อารมณ์อาจพาให้เสียเงินมากขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของบาคาร่า
✅ ข้อดี
- กติกาเข้าใจง่าย มือใหม่ก็เล่นได้
- ใช้เวลาเล่นแต่ละรอบไม่นาน
- มีโอกาสชนะสูง เพราะเลือกเดิมพันแค่ 2–3 ฝั่ง
- เล่นได้ทั้งคาสิโนจริงและออนไลน์
❌ ข้อเสีย
- เกมเร็วเกินไป อาจทำให้เสียเงินไว
- ไม่มีสูตรตายตัว
- เสี่ยงต่อการติดการพนันหากขาดวินัย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. บาคาร่าเล่นยากไหม?
→ ไม่ยาก กติกาเข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เล่นได้แล้ว
2. ควรเลือกเดิมพันฝั่ง Player หรือ Banker ดี?
→ สถิติส่วนใหญ่ Banker จะมีโอกาสชนะสูงกว่าเล็กน้อย แต่จะถูกหักค่าคอมมิชชั่น 5%
3. บาคาร่าออนไลน์ปลอดภัยไหม?
→ ปลอดภัย หากเลือกเว็บตรงที่มีใบอนุญาตและระบบการเงินมั่นคง
4. สามารถใช้สูตรบาคาร่าแล้วชนะได้ 100% หรือไม่?
→ ไม่มีสูตรไหนการันตีผลได้ 100% แต่สูตรช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
5. ใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเล่นบาคาร่าได้?
→ ขึ้นอยู่กับเว็บ บางเว็บเริ่มต้นเพียง 10 บาทต่อรอบ